|
สวัสดิการที่นายจ้างจัดให้ลูกจ้างที่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณเสียภาษีได้ ตอน เครื่องแบบพนักงาน 2012-12-11 10:19:27 ใน คำแนะนำนายจ้างลูกจ้าง » 0 35290 การที่นายจ้างจัดหาเครื่องแบบให้แก่ลูกจ้าง ตามกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตรา 77/1(8) และ(9) ถือว่าเป็นการขายสินค้า ดังนั้นเมื่อนายจ้างให้เครื่องแบบแก่ลูกจ้างซึ่งเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนโดยไม่มีค่าตอบแทนถือว่าเป็นการขาย ต้องเสียภาษีขาย
แต่ ก็มีประกาศอธิดีกรมสรรพกร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 40 ยกเว้น ไม่ถือว่าเป็นมูลค่าของฐานภาษี ไม่ต้องเสียภาษีขาย โดยต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้คือ ต้องไม่เกิน 2 ชุดต่อปี และเสื้อนอก 1ตัวต่อปี ไม่ถือเป็นเงินได้ของพนักงาน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 194 (พ.ศ. 2537) แต่ถือเป็นรายจ่ายของนายจ้างโดยสามารถนำไปหักคำนวณเป็นกำไรสุทธิได้ไม่ต้องห้าม อีกทั้งภาษีซื้อดังกล่าวขอคืนได้และได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีขาย
ข้อสังเกต นายจ้างต้องให้เครื่องแบบแก่ลูกจ้างเท่านั้นจึงจะได้รับการยกเว้น หากให้เป็นตัวเงิน หรือให้ผ้านำไปตัดเย็บเองต้องถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินของลูกจ้างตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลกฎหมายรัษฎากร จะไม่ได้รับการยกเว้น แนวทางแก้ไข คือ ให้ออกใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีในนามของนายจ้าง ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของพนักงานและนายจ้างถือเป็นรายจ่าย และนอกจากนี้ยังมีคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.47/2537 วางหลักเกณฑ์แนวทางปฎิบัติเงื่อนไขว่าเป็นการนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรง ที่นายจ้างสามารถถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล พอสรุปคราวๆคือ 1. นายจ้างมีระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับเครื่องแบบพนักงาน 2. เป็นเครื่องแบบที่ใช้เฉพาะงานโดยเฉพาะหรือพนักงานแต่ละคนต้องแต่งอย่างเดียวกันหรือคล้ายกันในจำนวนมากพอสมควร - ไม่ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกจ้าง ผลิตออกมาไม่เกินสมควร และต้องเก็บรักษาไว้ที่สถานประกอบการหรือลูกจ้างนำออกไปจากสถานประกอบการได้เพียงเพื่อการซักฟอกหรือทำความสะอาด - กรณีตกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกจ้าง ไม่ว่าลูกจ้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตัดเย็บเอง หรือนายจ้างผู้ประกอบการเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมดหรือบางส่วน คนละไม่เกินปีละ 2 ชุด เสื้อนอกไม่เกินปีละ 1ตัว แต่ไม่รวมถึงรองเท้า ชุดชั้นใน หรือเครื่องแต่งตัวอย่างอื่น 3. การจ่ายสิ่งของดังกล่าวนายจ้างผู้ประกอบการต้องลงรายการให้ชัดเจน ……………………………………………….
กฎกระทรวง
ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ข้อ 2. ให้กำหนดเงินได้ต่อไปนี้เป็นเงินได้ตาม (17) ของมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496
(34) เงินได้ที่คำนวณได้จากมูลค่าของเครื่องแบบซึ่งลูกจ้างได้รับจากนายจ้างในจำนวนคนละไม่เกินสองชุดต่อไป และเสื้อนอกในจำนวนคนละไม่เกินหนึ่งตัวต่อปี “เครื่องแบบ” ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า เครื่องแต่งกาย รวมทั้งสิ่งประกอบเครื่องแต่งกายที่กำหนดให้แต่งเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน แต่ไม่รวมถึงรองเท้าที่อาจใช้งานได้ทั่วไป ชุดชั้นใน หรือสิ่งประกอบเครื่องแต่งกายที่ทำด้วยโลหะหรืออัญมณีที่มีค่าเช่น เงิน ทองคำ ทับทิม หยก “เสื้อนอก” ตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึง ชุดไทยพระราชทานและเสื้อที่นิยมใช้ในการแต่งกายไปในงานสำคัญต่างๆ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 194 (พ.ศ. 2537) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2537 เป็นต้นไป) - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ป. 47/2537 เรื่อง ผู้ประกอบการจดทะเบียนนำสินค้าไปใช้ในการบริหารงานของกิจการ กรณีเครื่องแบบของพนักงาน --------------------------------------------- เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาหรือแนะนำผู้ประกอบการจดทะเบียนปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีตามข้อ 1 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 1) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรง ตามมาตรา 77/1(8)(ง) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2534กรณีเครื่องแบบของพนักงาน กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งต่อไปนี้
ข้อ 1 กรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับเครื่องแบบของพนักงาน โดยผู้ประกอบการเป็นฝ่ายจัดหาให้พนักงานใช้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน อันจะเข้าเงื่อนไขว่าเป็นการนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรงนั้น ต้องเป็นกรณีดังต่อไปนี้ (1) เป็นเครื่องแบบที่ใช้เฉพาะงานหรือห้องปฏิบัติงานโดยเฉพาะในปริมาณไม่เกินสมควร ซึ่งไม่ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่พนักงาน และเมื่อพนักงานปฏิบัติงานตามหน้าที่แล้วต้องเก็บรักษาไว้ที่สถานที่ประกอบการ หรือให้พนักงานนำออกไปจากสถานประกอบการได้เพียงเพื่อการซักฟอกหรือทำความสะอาด เป็นต้น
(2) เป็นเครื่องแบบที่พนักงานแต่ละคนต้องแต่งอย่างเดียวกันหรือคล้ายกันในจำนวนคนมากพอสมควร ซึ่งประชาชนทั่วไปเมื่อพบเห็น สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเครื่องแบบของพนักงานของผู้ประกอบการรายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะ ไม่ว่าพนักงานแต่ละคนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตัดเย็บเอง หรือผู้ประกอบการเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของพนักงานในจำนวนคนละไม่เกินปีละ 2 ชุด เสื้อนอกไม่เกินปีละ 1 ตัว แต่ไม่รวมถึงรองเท้า ชุดชั้นใน หรือเครื่องแต่งตัวอย่างอื่น
การจ่ายสิ่งของดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง ผู้ประกอบการต้องลงรายการให้ชัดเจน ดังนี้
(ก) กรณีที่ผู้ประกอบการเป็นผู้ผลิตสิ่งของดังกล่าว ผู้ประกอบการต้องลงรายการจ่ายในรายงานสินค้าและวัตถุดิบ ในช่องหมายเหตุว่า จ่ายเพื่อตัดเย็บเครื่องแบบ เสื้อนอก ของพนักงาน แล้วแต่กรณี (ข) กรณีที่ผู้ประกอบการเป็นผู้ซื้อหรือสั่งจ้างทำสิ่งของดังกล่าว เพื่อนำมาจ่ายให้แก่พนักงาน ให้ผู้ประกอบการลงรายการในรายงานภาษีซื้อ ในช่องรายการใต้รายการสินค้าหรือบริการว่า เพื่อจ่ายให้แก่พนักงานตัดเย็บเครื่องแบบ เสื้อนอก หรือใช้เป็นเครื่องแบบของพนักงาน แล้วแต่กรณี ข้อ 2 สำหรับค่าใช้จ่ายตามข้อ 1 ผู้ประกอบการหรือนายจ้างสามารถถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แล้วแต่กรณี ข้อ 3 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือตอบข้อหารือหรือทางปฏิบัติใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้เป็นอันยกเลิก คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2537 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 การที่นายจ้างจัดหาเครื่องแบบให้แก่ลูกจ้าง ตามกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตรา 77/1(8) และ(9) ถือว่าเป็นการขายสินค้า ดังนั้นเมื่อนายจ้างให้เครื่องแบบแก่ลูกจ้างซึ่งเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนโดยไม่มีค่าตอบแทนถือว่าเป็นการขาย ต้องเสียภาษีขาย แต่ ก็มีประกาศอธิดีกรมสรรพกร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 40 ยกเว้น ไม่ถือว่าเป็นมูลค่าของฐานภาษี ไม่ต้องเสียภาษีขาย โดยต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้คือ ต้องไม่เกิน 2 ชุดต่อปี และเสื้อนอก 1ตัวต่อปี ไม่ถือเป็นเงินได้ของพนักงาน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 194 (พ.ศ. 2537) แต่ถือเป็นรายจ่ายของนายจ้างโดยสามารถนำไปหักคำนวณเป็นกำไรสุทธิได้ไม่ต้องห้าม อีกทั้งภาษีซื้อดังกล่าวขอคืนได้และได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีขาย ข้อสังเกต นายจ้างต้องให้เครื่องแบบแก่ลูกจ้างเท่านั้นจึงจะได้รับการยกเว้น หากให้เป็นตัวเงิน หรือให้ผ้านำไปตัดเย็บเองต้องถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินของลูกจ้างตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลกฎหมายรัษฎากร จะไม่ได้รับการยกเว้น แนวทางแก้ไข คือ ให้ออกใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีในนามของนายจ้าง ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของพนักงานและนายจ้างถือเป็นรายจ่าย และนอกจากนี้ยังมีคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.47/2537 วางหลักเกณฑ์แนวทางปฎิบัติเงื่อนไขว่าเป็นการนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรง ที่นายจ้างสามารถถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล พอสรุปคราวๆคือ 1. นายจ้างมีระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับเครื่องแบบพนักงาน 2. เป็นเครื่องแบบที่ใช้เฉพาะงานโดยเฉพาะหรือพนักงานแต่ละคนต้องแต่งอย่างเดียวกันหรือคล้ายกันในจำนวนมากพอสมควร - ไม่ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกจ้าง ผลิตออกมาไม่เกินสมควร และต้องเก็บรักษาไว้ที่สถานประกอบการหรือลูกจ้างนำออกไปจากสถานประกอบการได้เพียงเพื่อการซักฟอกหรือทำความสะอาด - กรณีตกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกจ้าง ไม่ว่าลูกจ้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตัดเย็บเอง หรือนายจ้างผู้ประกอบการเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมดหรือบางส่วน คนละไม่เกินปีละ 2 ชุด เสื้อนอกไม่เกินปีละ 1ตัว แต่ไม่รวมถึงรองเท้า ชุดชั้นใน หรือเครื่องแต่งตัวอย่างอื่น 3. การจ่ายสิ่งของดังกล่าวนายจ้างผู้ประกอบการต้องลงรายการให้ชัดเจน ……………………………………………….
กฎกระทรวง
ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ข้อ 2. ให้กำหนดเงินได้ต่อไปนี้เป็นเงินได้ตาม (17) ของมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496
(34) เงินได้ที่คำนวณได้จากมูลค่าของเครื่องแบบซึ่งลูกจ้างได้รับจากนายจ้างในจำนวนคนละไม่เกินสองชุดต่อไป และเสื้อนอกในจำนวนคนละไม่เกินหนึ่งตัวต่อปี “เครื่องแบบ” ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า เครื่องแต่งกาย รวมทั้งสิ่งประกอบเครื่องแต่งกายที่กำหนดให้แต่งเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน แต่ไม่รวมถึงรองเท้าที่อาจใช้งานได้ทั่วไป ชุดชั้นใน หรือสิ่งประกอบเครื่องแต่งกายที่ทำด้วยโลหะหรืออัญมณีที่มีค่าเช่น เงิน ทองคำ ทับทิม หยก “เสื้อนอก” ตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึง ชุดไทยพระราชทานและเสื้อที่นิยมใช้ในการแต่งกายไปในงานสำคัญต่างๆ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 194 (พ.ศ. 2537) ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2537 เป็นต้นไป) - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ป. 47/2537 เรื่อง ผู้ประกอบการจดทะเบียนนำสินค้าไปใช้ในการบริหารงานของกิจการ กรณีเครื่องแบบของพนักงาน --------------------------------------------- เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาหรือแนะนำผู้ประกอบการจดทะเบียนปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีตามข้อ 1 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 1) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรง ตามมาตรา 77/1(8)(ง) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2534กรณีเครื่องแบบของพนักงาน กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งต่อไปนี้
ข้อ 1 กรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับเครื่องแบบของพนักงาน โดยผู้ประกอบการเป็นฝ่ายจัดหาให้พนักงานใช้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน อันจะเข้าเงื่อนไขว่าเป็นการนำสินค้าไปใช้เพื่อการประกอบกิจการของตนเองโดยตรงนั้น ต้องเป็นกรณีดังต่อไปนี้ (1) เป็นเครื่องแบบที่ใช้เฉพาะงานหรือห้องปฏิบัติงานโดยเฉพาะในปริมาณไม่เกินสมควร ซึ่งไม่ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่พนักงาน และเมื่อพนักงานปฏิบัติงานตามหน้าที่แล้วต้องเก็บรักษาไว้ที่สถานที่ประกอบการ หรือให้พนักงานนำออกไปจากสถานประกอบการได้เพียงเพื่อการซักฟอกหรือทำความสะอาด เป็นต้น (2) เป็นเครื่องแบบที่พนักงานแต่ละคนต้องแต่งอย่างเดียวกันหรือคล้ายกันในจำนวนคนมากพอสมควร ซึ่งประชาชนทั่วไปเมื่อพบเห็นสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเครื่องแบบของพนักงานของผู้ประกอบการรายหนึ่งรายใดโดยเฉพาะ ไม่ว่าพนักงานแต่ละคนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตัดเย็บเอง หรือผู้ประกอบการเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของพนักงานในจำนวนคนละไม่เกินปีละ 2 ชุด เสื้อนอกไม่เกินปีละ 1 ตัว แต่ไม่รวมถึงรองเท้า ชุดชั้นใน หรือเครื่องแต่งตัวอย่างอื่น การจ่ายสิ่งของดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง ผู้ประกอบการต้องลงรายการให้ชัดเจน ดังนี้ (ก) กรณีที่ผู้ประกอบการเป็นผู้ผลิตสิ่งของดังกล่าว ผู้ประกอบการต้องลงรายการจ่ายในรายงานสินค้าและวัตถุดิบ ในช่องหมายเหตุว่า จ่ายเพื่อตัดเย็บเครื่องแบบ เสื้อนอก ของพนักงาน แล้วแต่กรณี (ข) กรณีที่ผู้ประกอบการเป็นผู้ซื้อหรือสั่งจ้างทำสิ่งของดังกล่าว เพื่อนำมาจ่ายให้แก่พนักงาน ให้ผู้ประกอบการลงรายการในรายงานภาษีซื้อ ในช่องรายการใต้รายการสินค้าหรือบริการว่า เพื่อจ่ายให้แก่พนักงานตัดเย็บเครื่องแบบ เสื้อนอก หรือใช้เป็นเครื่องแบบของพนักงาน แล้วแต่กรณี ข้อ 2 สำหรับค่าใช้จ่ายตามข้อ 1 ผู้ประกอบการหรือนายจ้างสามารถถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แล้วแต่กรณี ข้อ 3 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือตอบข้อหารือหรือทางปฏิบัติใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้เป็นอันยกเลิก คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2537 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 |
|
Miracle Consultant Limited
1/828 การ์เด้นโฮม ช้อปปิ้ง พลาซ่า หมู่ที่ 17 ถนนพหลโยธิน
ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 Tel : 02-5316729-30 E-mail : webmaster@miracleconsultant.com |